ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศไทยยังเป็นประเทศเกษตรกรรมที่ยังต้องอาศัยองค์ความรู้ทางวิชาการและเทคโนโลยีที่สำคัญในกระบวนการผลิตจากระบบเกษตรพันธสัญญาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทางการเกษตรให้เกษตรกร ช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐในการพยุงราคาสินค้าเกษตรกรรมตลอดจนช่วยเพิ่มโอกาสการจ้างงานในภาคเกษตรกรรม ซึ่งโดยหลักการแล้วระบบเกษตรพันธสัญญาเป็นระบบที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความตกลงระหว่างผู้ประกอบธุรกิจกับเกษตรกรการที่ภาครัฐเข้ามาช่วยคุ้มครองดูแลเกษตรกรซึ่งอยู่ในฐานะที่มีอำนาจต่อรองน้อยกว่า เพื่อส่งเสริมสิทธิและยกระดับเกษตรกรให้มีฐานะที่ใกล้เคียงหรือเท่าเทียมกับผู้ประกอบธุรกิจ และพัฒนาให้ระบบเกษตรพันธสัญญาดำเนินการไปด้วยความเป็นธรรมนั้น เป็นเรื่องที่สมควรสนับสนุนอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองเกษตรกรนั้นจะต้องคำนึงถึงจุดสมดุลของการเป็นคู่สัญญาทั้งฝ่ายผู้ประกอบธุรกิจและเกษตรกรไปพร้อมกันด้วย ทั้งนี้ นนท์ นุชหมอน ได้กล่าวถึงคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งดำเนินงานภายใต้นโยบายสี่ประสานได้ให้ข้อคิดเห็นต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไว้ใน “เกษตรพันธสัญญา”ภาพรวมและบทสำรวจประเด็นปัญหาในประเทศไทย”ว่ารัฐบาลไม่ควรเข้าไปแทรกแซงบทบาทในการทำสัญญาระหว่างบริษัทและเกษตรกร และการขยายตัวของระบบเกษตรพันธสัญญาสามารถดำเนินการโดยเอกชนเป็นหลัก โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งอาจพิจารณาได้ว่าการมุ่งคุ้มครองเกษตรกรอาจทำให้เกิดสภาวะที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่ประสงค์ที่จะลงทุน ซึ่งจะส่งผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ทั้งต่อเกษตรกรและระบบการเกษตรของประเทศในภาพรวมได้ ดังนั้น ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาที่เป็นธรรมพ.ศ. …. ก็อาจเป็นนโยบายและมาตรการของรัฐอย่างหนึ่งที่จะส่งเสริมและสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในระบบเกษตรพันธสัญญา ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรเป็นไปอย่างครอบคลุมและตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้นจริงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับเกษตรกรและผู้ประกอบธุรกิจในระบบเกษตรพันธสัญญาให้มีความสมดุลกันจึงควรมีการศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบเกษตรพันธสัญญาของประเทศไทยในปัจจุบันว่าต้นเหตุของปัญหาที่แท้จริงแล้วคืออะไรเพื่อจะได้แก้ไขได้อย่างถูกต้อง ตรงประเด็นและยังคงรักษาจุดสมดุลระหว่างเกษตรกรและผู้ประกอบธุรกิจในระบบเกษตรพันธสัญญาให้คงอยู่เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเข้มแข็งและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไป