วันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๐ เวลา ๑๓.๓๐ น. ปลัดกระทรวงยุติธรรม (นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ) ประธานคณะอนุกรรมการปฏิรูปกิจการตำรวจ
ได้มีการประชุม ครั้งที่ ๔/๒๕๖๐โดยมีนายวัลลภ นาคบัว ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม เข้าร่วมประชุม นางอุษา จั่นพลอย บุญเปี่ยม
เป็นฝ่ายเลขานุการฯ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบหลักการ ดังนี้
๑. เห็นชอบหลักการการพัฒนาระบบค่าตอบแทนที่มีความสัมพันธ์กับภารกิจอำนาจหน้าที่ และการบริหารงานบุคคลอย่างมีความยืดหยุ่น ภายใต้กรอบงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบัน โดยมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ นำเสนอ (ร่าง) รายงานผลการดำเนินงานของคณอนุกรรมการปฏิรูปกิจการตำรวจ (กรอบที่ ๓ – ๕) ในการประชุมครั้งถัดไป
๒. เห็นชอบให้นำหลักการการปฏิรูปกิจการตำรวจทั้ง ๕ กรอบ ประกอบด้วย กรอบที่ ๑ การพัฒนาระบบการสอบสวน กรอบที่ ๒ การพัฒนาระบบงานนิติวิทยาศาสตร์ กรอบที่ ๓ การพัฒนาอำนาจหน้าที่และภารกิจของตำรวจ กรอบที่ ๔ การพัฒนาระบบบริหารงานบุคคล กรอบที่ ๕ การพัฒนาระบบค่าตอบแทนมาประยุกต์ใช้กับการบริหารงานสถานีตำรวจซึ่งถือเป็นหัวใจของการปฏิรูปกิจการตำรวจที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนสูงสุด โดยมีประเด็นในการปรับปรุงและพัฒนาจากหลักการสู่การดำเนินการที่เป็นรูปธรรม ดังนี้
๒.๑ ปรับปรุงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจให้มีธรรมาภิบาล เพื่อลดปัญหาการซื้อขายตำแหน่งและเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ โดยอาศัยการสร้างหลักประกันความเป็นธรรมในการโยกย้ายอย่างเป็นระบบ มีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับจากสังคมในวงกว้าง โดยอาจมีการกำหนดกฎเกณฑ์กลางมาบังคับใช้ในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย เป็นต้น
๒.๒ ปรับปรุงประสิทธิภาพ ของสถานีตำรวจในการให้บริการประชาชนให้มีความรวดเร็ว ถูกต้องและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น
๒.๓ ผลักดันให้มีการเพิ่มงบประมาณในส่วนของการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ขาดแคลน หรือที่จำเป็นในการปฏิบัติงานของตำรวจ เพื่อส่งเสริมให้การปฏิบัติงานของตำรวจมีประสิทธิภาพสูงสุดและลดปัญหาการเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ
๒.๔ ควรมีการประเมินประสิทธิภาพทั้งในการปฏิบัติงานของตำรวจและประสิทธิภาพของสถานีตำรวจในการให้บริการประชาชนในภาพรวม
๒.๕ ควรมีการพัฒนาสถานีตำรวจให้มีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติภารกิจและมีความสอดคล้องกับพื้นที่หรือกลุ่มจังหวัดที่มีลักษณะพิเศษ เช่น สถานีตำรวจเมืองพัทยาที่เน้นความสำคัญของการดูแลนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ จัดทำรูปแบบสถานีตำรวจอันจะเป็นต้นแบบที่เหมาะสมในการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและนำเสนอต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาร่วมกันในครั้งถัดไป