เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 นายวัลลภ นาคบัว ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ ได้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนงานภายใต้โครงการโรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์ (รุ่นที่ 1) ณ โรงแรมรามา การ์เด้น วิภาวดีรังสิต ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารกับผู้อำนวยการโรงเรียนและครูของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการยุติธรรมอุปถัมภ์ เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของโครงการฯ โดยการประชุมในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมการประชุมประมาณ 400 คน
ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้
ในช่วงเช้า ผอ.สกธ. ได้ให้เกียรติบรรยายในหัวข้อ “การขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์” ซึ่งได้กล่าวถึงสถานการณ์กระบวนการยุติธรรมกับการพัฒนามนุษย์ โดยเฉพาะเด็กที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อันเป็นที่มาของการดำเนินโครงการโรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์ เพื่อป้องกันอาชญากรรมทั้งในมิติของการตกเป็นเหยื่อและมิติของการเป็นกลุ่มเสี่ยงในการกระทำผิด และลดการกระทำผิดซ้ำ ซึ่งเป็นกระบวนการต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม ผ่านการบูรณาการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ในกรอบเนื้อหา 4 ด้าน และ 5 ขั้นตอนในการดำเนินงาน ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำหลักการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อาทิ ไม่เป็นภาระของโรงเรียน เป็นต้น
หลังจากนั้น นายอุทิศ บัวศรี ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ให้เกียรติขึ้นบรรยายต่อในหัวข้อ “การปลูกฝังจิตสำนึกเด็กและเยาวชนในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งสอดคล้องกับกรอบเนื้อหาการดำเนินกิจกรรมโรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์กรอบที่ 4 เรื่อง การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2560-2564) ในยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต โดยเน้นปรับฐานความคิดทุกช่วงวัย ตั้งแต่ปฐมวัยให้สามารถแยกระหว่างผลประโยชน์ส่วนรวมและผลประโยชน์ส่วนตัว
ในช่วงบ่าย ได้รับเกียรติจากพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนงานภายใต้โครงการโรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์ (รุ่นที่ 1) พร้อมทั้งได้กล่าวปาฐกถาพิเศษถึงความสำคัญของการพัฒนาเด็กให้เป็นคนดี โดยได้เน้นย้ำให้เด็กได้เรียนรู้และเข้าใจอย่างเป็นธรรมชาติ จะทำให้เด็กเข้าใจอย่างแท้จริง ซึ่งโครงการโรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์นี้ ในชั้นต้นเป็นความร่วมมือระหว่าง ศธ ยธ มท และกทม. โดยมีโรงเรียนเข้าร่วมทั้งหมด 880 โรงเรียน ในปี 2561 รวมถึงจะประเมินและขยายผลต่อไปในปี 2562 ทั้งนี้ ท่านได้ให้แนวทางในการดำเนินงานไว้ 4 ข้อดังนี้
1) ไม่กดดันสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง และนักเรียน รวมถึงสื่อสารกับผู้ปกครอง เพื่อไม่ให้เกิดข้อกังขาหรือข้อสงสัยในกิจกรรมที่จะดำเนินการกับเด็กและเยาวชน
2) ดำเนินการแบบจริงใจ ตรงไปตรงมา (sincere) ซึ่งจะทำให้เกิดความผูกพัน และเกิดการยอมรับ ซึมซับ และนำไปขยายผลสู่การปฏิบัติได้
3) ยธ. และพันธมิตร จะไม่ดำเนินการเพื่อให้เกิดภาระและค่าใช้จ่ายแก่โรงเรียนมากขึ้น แต่จะช่วยลดภาระของโรงเรียน อาทิ พัฒนาอาคารสถานที่ พัฒนาระบบสาธารณูปโภค เป็นต้น
4) ร่วมมือกันดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ทิ้งไปไหน และมีเครือข่ายให้พูดคุยพบปะกันอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การดำเนินงานโรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์ไม่ได้เป็นแบบ one for all แต่จะมีแนวทางที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและบริบทของโรงเรียน แต่มีวัตถุประสงค์เดียวกันคือเพื่อช่วยกันสร้างเด็กและเยาวชนให้เป็นคนดี มีศีลธรรม มีความรู้สติปัญญา เป็นคนดีของพ่อแม่ เป็นคนดีของครอบครัว สังคม และประเทศชาติ
ในช่วงท้ายของการประชุมวันนี้ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาติ ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ได้ให้เกียรติบรรยายในหัวข้อ “พัฒนาเด็กและเยาวชนด้วยพลังบวก” (I am I have I can) โดยได้เน้นย้ำว่าความแตกต่างของทัศนคติและมุมมองต่อวัยรุ่นจะทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติที่มีวิธีการและผลลัพธ์ต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากมองที่ปัญหาเป็นตัวตั้ง จะพบว่าวัยรุ่นมีความเสี่ยงมากที่สุด และมีความซับซ้อน แต่หากมองที่ศักยภาพเป็นหลักจะพบว่าวัยรุ่นเป็นวัยที่มีพลังและความคิดสร้างสรรค์ ฉะนั้น สายใยรักและการสร้างพลังบวก คือกุญแจสำคัญในการสร้างทุนชีวิตในวัยรุ่น ทั้งนี้ยังได้เล่าถึงประสบการณ์ต่างๆที่ได้ประสบพบเจอมา อาทิ จากผู้ป่วยที่คลินิคเพื่อวัยทีน ที่ทำให้เห็นถึงการที่พ่อและแม่เห็นข้อผิดพลาดของตนเอง และยอมรับที่จะฝึกการเปลี่ยนแปลงเพื่อความรักที่มีให้กับลูก เป็นต้น
นอกจากนี้ บรรยากาศหน้าห้องประชุม ได้มีการจัดนิทรรศการโครงการโรงเรียนยุติธรรมอุปถัมภ์ ของหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม ซึ่งทุกนิทรรศการได้สร้างสีสันให้แก่การประชุมในครั้งนี้ และเรียกความสนใจจากผู้เข้าร่วมประชุมได้เป็นจำนวนมาก