วันที่ 16 กันยายน 2562 นายวัลลภ นาคบัว ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม ได้มอบหมายให้นางสาวสุพรรณี ประเสริฐทองกร รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม เข้าร่วมสัมมนาบุคลากรภาครัฐ ยุทธศาสตร์ชาติภาคปฏิบัติ : ร่วมขยับขับเคลื่อนภาครัฐ เพื่อประชาชน (National Strategy in Action Integrated Implementation for THAIS)
ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์บอลรูม อิมแพ็คเมืองทองธานี
จังหวัดนนทบุรี
เพื่อนำเสนอแนวคิด วิธีการ เเละรูปแบบที่หลากหลายในการร่วมขับเคลื่อนภารกิจงาน โครงการภาครัฐของกลุ่มข้าราชการผู้ได้รับการพัฒนาผ่านหลักสูตรต่าง ๆ ของสำนักงาน ก.พ. อาทิ กลุ่มหลักสูตร ป.ย.ป. หลักสูตรการพัฒนาคลื่นลูกใหม่ (New web Leader ship Pogram -WW) โครงการเชิงยุทธศาสตร์/โครงการสำคัญระดับประเทศ (policy work/Study Team) และข้าราชการผู้มีผลสัมฤทธิ์สูง (HiPPS)
กลุ่มเป้าหมายผู้เข้าร่วมการสัมมนาเป็นผู้บริหารระดับสูงของส่วนราชการ ส่วนกลาง ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บริหารท้องถิ่น
โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการสัมมนา และรับฟังการนำเสนอโครงการต่าง ๆ รวมทั้งปาฐกถาพิเศษ
สรุปได้ดังนี้
1) ให้เน้นการบูรณาการทำงานทุกภาคส่วน
2) การเรียน การอบรมต่าง ๆ เมื่อเราเข้าใจเเล้ว ต้องทำให้คนข้างนอกเข้าใจด้วย หาวิธีการ ต้องรับฟังสองทางเสมอ
เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
3) การขับเคลื่อนงานบางเรื่องต้องรอการเเก้ไขกฎหมาย
การบูรณาการในระบบ กระทบกับประชาชนหรือไม่อย่างไร
4) การปรองดองเป็นยุทธชาติที่สำคัญอีกด้านหนึ่ง
รวมทั้งะบบการเงินของทางราชการ เราต้องรู้ว่าจะใช้อะไรได้บ้าง
5) ต้องสร้างการรับรู้ด้านกฎหมายให้กับประชาชน
6) ต้องยกระดับการศึกษาทั้งในระบบ เเละนอกระบบ โดยใช้ Bigdata
7) เด็กเเละเยาวชนต้องเรียนรู้กฎหมายพื้นฐาน ต้องสร้างจินตนาการ และจิตสำนึกในการเรียนรู้ จะได้เห็นศักยภาพตั้งแต่เด็ก
8) การทำงานต้องทำอย่างต่อเนื่อง ควรลดตัวตน เพื่อลดความขัดแย้ง
9) ด้านการเกษตร จะต้องวางรากฐานการเกษตร คิดให้ครบวงจร
10) ทำอย่างไรให้โลกกลายเป็นสีเขียว ดูระบบการผลิตพลังงาน
11) การบริหารจัดการน้ำ ต้องมีการบูรณาการทำงานร่วมกัน ต้องมีข้อมูลเพื่อรับสถานการณ์น้ำ อาทิเช่น การสร้างเขื่อน
การระบายน้ำ ให้ประชาชนสามารถคิดเป็น ช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้น จากเดิมที่รอจากรัฐฝ่ายเดียว
12) ต้องปรับตัวให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนไป มีการเรียนรู้ด้วยตัวเอง มีปริญญาชุมชน ปริญญาเฉพาะทาง ปราชญ์ชาวบ้าน เป็นต้น
13) การบรรจุข้าราชการทดเเทน เช่น รับข้าราชการเฉพาะทาง
มีค่าตอบแทนพิเศษ จ้างคนเก่งมาทำงาน โดยสอบเฉพาะด้าน
เเยกสัดส่วนเฉพาะทาง กับสอบรับราชการปกติ
14) การคัดเลือกนักเรียนทุนรัฐบาล การให้ทุนทั่วไป ทุนเฉพาะทาง ต้องมีความเป็นธรรม
15) ควรศึกษาเเรงงานทั้งในระบบ และนอกระบบ มีกองทุนช่วยเหลือหรือไม่ รวมทั้งด้านกฎหมายมีความครอบคลุมครบถ้วน หรือไม่ ต้องบูรณาการทุกภาคส่วน
16) ให้ข้าราชการคิด เเล้วให้ประชาชนมีส่วนร่วม มีเวทีของชาวบ้าน เช่น เรื่องที่ดินทำกิน การเเก้กฎหมายเกี่ยวกับที่ดิน เพื่อลดข้อขัดเเย้ง เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ยั่งยืน
เเละนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำ เราต้องเปลี่ยนประเทศด้วยตัวของเราเอง
เเละต่อมา ดร.ชินาวุธ ชินาพายูร วิทยากรจากสำนักงาน
ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล( Depa) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาให้ความรู้ Government & Open Innovation เกี่ยวกับการจัดการนวัตกรรม การปรับเปลี่ยนภาครัฐ เปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล มีการบูรณาการภาครัฐ การให้บริการภาครัฐต้องดีขึ้น รับรู้ความต้องการของประชาชนใช้เทคโนโลยีในการขับเคลื่อน มีเครื่องมือ กระบวนการ เชื่อมโยงการสำรวจ วางระบบดิจิทัล ระบบภาครัฐต้องปรับเปลี่ยนให้ประชาชนเข้าถึงระบบการบริการของภาครัฐ
หลังจากนั้น นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง รับฟังการนำเสนอของกลุ่มกำลังคนในหลักสูตรต่าง ๆ เเละเน้นย้ำการทำงานต้องยึดที่เป้าหมาย เปลี่ยน Mindset ของตัวเอง
โครงการที่นำเสนอต้องเดินหน้า ขับเคลื่อนประเทศ
การเชื่อมโยงข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญ ต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยน
เเปลง Change จากบนลงล่าง ซึ่งระบบเอกชนจะมีการเเข่งขันกัน ภาครัฐจะต้องเปลี่ยนกระบวนการ เป้าหมาย ถ้าไม่เปลี่ยน บทบาทภาครัฐก็จะลดลงโดยมีองค์กรกลางมาช่วยขับเคลื่อน ภาครัฐต้องปรับเปลี่ยนตัวเองและมีนวัตกรรมภาครัฐ