วันนี้ 7 มกราคม 2563 นายชาตรี จันทร์เพ็ญ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม นำคณะผู้เข้ารับการอบรม หลักสูตร Crime Prevention รุ่นที่ 3 ศึกษาดูงาน ณ จังหวัดชลบุรี
ช่วงเช้า เวลา 09.00 – 12.00 น. คณะผู้เข้ารับการอบรม ศึกษาดูงานและรับฟังการบรรยาย
หัวข้อ “การบริหารจัดการเกี่ยวกับการพัฒนาพฤตินิสัยและมาตรการลดความแออัดของผู้ต้องขัง” ณ เรือจำพิเศษพัทยา ซึ่งได้รับเกียรติจากนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษพัทยา กล่าวต้อนรับและนำทีมเจ้าหน้าที่บรรยายพร้อมเดินเยี่ยมชมภายในเรือนจำ โดยสามารถสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
– เรือนจำพิเศษพัทยา เป็นเรือนจำที่ควบคุมและพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดีและผู้ต้องขังลหุโทษ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี ปัจจุบันมีผู้ต้องขังแดนชายและแดนหญิงรวม 3,799 คน แบ่งเป็นผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดี 558 คน และนักโทษเด็ดขาด 3,241 คน ผู้ต้องขังประมาณร้อยละ 60 เป็นคนต่างถิ่น และร้อยละ 40 เป็นคนในพื้นที่
– ผู้ต้องขังส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด ร้อยละ 68 รองลงมาคือ คดีเกี่ยวกับทรัพย์ ร้อยละ 14 และคดีเกี่ยวกับเพศ ร้อยละ 9 ตามลำดับ ในจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด มีผู้ต้องขังที่มีความหลากหลายทางเพศจำนวนกว่า 500 คน อันเนื่องมาจากเป็นเมืองท่องเที่ยว โดยได้แยกหอนอนให้แก่กลุ่มผู้ต้องขังที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้ว การควบคุมผู้ต้องขังของเรือนจำมุ่งเน้นดำเนินการตามหลักสิทธิมนุษยชน หลักทัณฑวิทยา หลักอาชญาวิทยา และคำนึงถึงความต้องการขั้นพื้นฐาน ปัจจัยสี่ของมนุษย์
– เรือนจำมีการจำแนกผู้ต้องขังตามศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ ความถนัด และมีกองงานส่งเสริมอาชีพที่หลากหลายสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ผู้บริโภค คำนึงถึงการพัฒนาจิตใจและคุณค่าของผู้ต้องขังทั่วไป
– นอกจากนี้เรือนจำยังได้ดำเนินการสร้างเตียงนอน 2 ชั้น ในหอนอนต่างๆ เพื่อลดความแออัดให้ผู้ต้องขังสามารถอาศัยอยู่ได้ตามหลักสากล
ช่วงบ่าย เวลา 13.00-16.00 น. คณะผู้เข้ารับการอบรม ศึกษาดูงานและรับฟังการสัมมนาในหัวข้อ “บูรณาการป้องกันอาชญากรรมของเมืองท่องเที่ยว” ณ ศาลาว่าการเมืองพัทยา ซึ่งได้รับเกียรติจากนายภูมิพิพัฒน์ กมลนาถ
เลขานุการนายกเมืองพัทยาให้การต้อนรับคณะ และคณะวิทยากรการสัมมนา ได้แก่
พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา
พ.ต.ท.สุรพรรณ นิลวิลัย (สารวัตร) สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา
พ.ต.ต.จีรวัฒน์ สุคนธทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ รักษาการในตำแหน่งท่วมหน่วยการส่วนรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง
มาแลกเปลี่ยนแนวคิดการป้องกันอาชญากรรม ในด้านต่างๆ โดยสรุป ดังนี้
สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา มีการบริหารจัดการปัญหาอาชญากรรม ดังนี้
– ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการป้องกันอาชญากรรม ได้แก่ การจัดทำ Application Police 4.0 มาใช้ในการบริหารจัดการระบบงานตำรวจ เช่น Redbox QR code การตรวจสอบการควบคุมดูแลของสายตรวจแบบสแกนใบหน้า/Crime Maping ซึ่งพัฒนาจากระบบนาฬิกาอาชญากรรม/CCTV Maping แผนที่กล้องวงจรปิดในเมืองพัทยา รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูล และสถิติในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เช่น ปัญหาการวิ่งราวทรัพย์ เป็นต้น
– การพัฒนาตำรวจเมืองพัทยาเป็น พัทยาตำรวจยิ้มแย้ม Work Smart Work Smile เพื่อให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ผ่อนคลาย ดูแลในเรื่องสวัสดิการ และมีทัศนคติเชิงบวกในการทำงาน
– เมืองพัทยา มีระบบการบริหารจัดการเมืองท่องเที่ยวในลักษณะ พีทยาทีม เป็นการทำงานในลักษณะการประสานทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน อาสาสมัคร เพื่อบูรณาการป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ได้แก่
– การสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างตำรวจ ทหาร เทศบาลเมืองพัทยา กรมเจ้าท่า กรมขนส่งทางบก และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกันบูรณาการในการรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชน
– การจัดทำท่าจอดเรือ/จัดลานและจุดที่จอดรถรับ/ส่งนักท่องเที่ยว
– ศูนย์ประสานงานชุมชนเพื่อดูแลและบริการช่วยเหลือ นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 24 ชั่วโมง
– จัดให้มีเจ้าหน้าที่สายตรวจ ตามสถานที่ท่องเที่ยวและสวนสาธารณะ พร้อมทั้ง จัดเจ้าหน้าที่เดินเท้า Walking Street เพื่อดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
– มีอาสาสมัคร อปพร. เมืองพัทยาร่วมออกตรวจ 20.00 – 02.00 น. ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่เสี่ยง
– มูลนิธิพัทยาร่วมออกตรวจ/ป้องกันภัยในยามค่ำคืน
นอกจากนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างวิทยากรและผู้เข้ารับการอบรม