เมื่อวันที่ 29 – 30 พฤศจิกายน 2565 นายชัยวัฒน์ ร่างเล็ก รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม และ นายชาตรี จันทร์เพ็ญ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม นำคณะผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารงานยุติธรรมระดับกลาง รุ่นที่ 18 (ยธก.18) ศึกษาดูงานในประเด็นที่เกี่ยวข้องการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวผู้ต้องขัง การแก้ไขฟื้นฟูเด็กเเละเยาวชนผู้กระทำผิด รวมถึงการอำนวยการยุติธรรมในพื้นที่ ณ จังหวัดชลบุรี
โดยในประเด็นการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวผู้ต้องขัง ได้ศึกษาดูงานและเข้ารับฟังการบรรยาย หัวข้อ “การสร้างงานสร้างอาชีพก่อนปล่อยตัวผู้ต้องขัง” ณ เรือนจำกลางชลบุรี ซึ่งปัจจุบันเรือนจำกลางชลบุรี มีผู้ต้องขังจำนวน 4,748 คน มีการฝึกวิชาชีพผู้ต้องซึ่งเป็นการ “สร้างงาน สร้างอาชีพ” ก่อนปล่อยตัว โดยมีการจัดอบรมผู้ต้องขังเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 30 ชั่วโมง ดำเนินการอบรมและปล่อยตามขั้นตอนของเรือนจำกลางชลบุรี ซึ่งปัจจุบันนี้มีการฝึกวิชาชีพให้ผู้ต้องขังอย่างหลากหลายสาขาอาชีพ อาทิ การฝึกประกอบจักรยานซึ่งได้รับความร่วมมือจากบริษัท มายจักรยาน จำกัด มีกำลังการผลิตประมาณ 600 คันต่อวัน อาหารปรุงสุก เบเกอรี่ งานศิลปะ คาร์แคร์ สมาร์ทฟาร์ม สมุนไพร เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้ผู้ต้องขังก่อนปล่อยตัว
ประเด็นการแก้ไขฟื้นฟูเด็กเเละเยาวชนผู้กระทำผิด ได้ศึกษาดูงานและรับฟังการบรรยาย หัวข้อ “การแก้ไขและฟื้นฟูเด็กและเยาวชนผู้กระทำความผิด”ณ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดชลบุรี ซึ่งมีภารกิจในการควบคุมดูแล 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดนครนายก มีจำนวนเด็กและเยาวชนในการควบคุม รวม 26 คน โดยมีกระบวนการจำแนก แก้ไข บำบัด ฟื้นฟู และส่งต่อ เน้นเรื่องการศึกษาการฝึกวิชาชีพ ทั้งนี้ได้ร่วมมือกับ สมาคมการศึกษาตลอดชีวิตและส่งเสริมอาชีพ (ส.ก.ส.อ.) ในการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนสำหรับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนฯ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนที่เป็นการสร้างโอกาสทางการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น ปัจจุบันมีการให้ความรู้ ในวิชาพื้นฐาน 9 วิชา และเพิ่มเติมความรู้ด้านภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษและภาษาจีน ผ่านการเรียนการสอนระบบออนไลน์
ประเด็นการอำนวยการยุติธรรมในพื้นที่ ได้ข้าเยี่ยมคารวะ นางสาวฐิติลักษณ์ คำพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และรับฟังเสวนา หัวข้อ “บทบาทหน้าที่การอำนวยความยุติธรรมในระดับพื้นที่ : กรณีศึกษาสถานบันเทิง Mountain B” ซึ่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 65 ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 31 ราย และผู้เสียชีวิต 26 ราย ทั้งนี้ มีหลายหน่วยงาน ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ได้เข้าระงับเหตุและให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ดังนี้
– การช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ โดยได้มอบเงินค่าจัดการศพผู้เสียชีวิต (กรณีผู้เสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัวจะได้รับเงินสงเคราะห์ครอบครัวเพิ่มเติมอีก) รวมถึงในกรณีได้รับบาดเจ็บสาหัส/เล็กน้อย
– การประสานงานบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เทศบาลเมืองสัตหีบตั้งจุดบัญชาการเหตุการณ์ ณ ที่เกิดเหตุขึ้นที่ด้านหน้าอาคารที่เกิดเหตุเพื่อรับเรื่องการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ได้รับผลกระทบและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ การประกาศให้พื้นที่เกิดเหตุเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย การสั่งปิดกั้นพื้นที่ สั่งห้ามเข้าอาคาร และสั่งให้มีการตรวจสอบอาคาร อีกทั้ง จังหวัดชลบุรีได้ตั้งคณะทำงานติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเพลิงไหม้ร้าน Mountain B
– มาตรการป้องกันมิให้เกิดเหตุซ้ำ โดยบูรณาการฝ่ายปกครอง และตำรวจในการตรวจสถานบริการ และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการให้มีความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอหากพบว่าผิดกฎหมายให้ดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด การให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตรวจสอบผู้รับใบอนุญาตให้ใช้อาคารประเภทสถานบริการและสถานที่จำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่ม ให้มีระบบความปลอดภัยตามกฏหมายควบคุมอาคาร การประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการเพิ่มความเอาใจใส่ ระมัดระวัง ดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ
– การให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ผู้ได้รับผลกระทบ ทางจังหวัดชลบุรีได้จัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ผู้ได้รับผลกระทบ โดยมีสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดชลบุรี ร่วมกับสภาทนายความจังหวัดชลบุรี เป็นผู้ให้คำปรึกษา
124 Views