วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2568 นางสาวอรวรรณ ปานคง ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม นำคณะผู้เข้ารับการฝึกอบรม ศึกษาดูงาน ณ เรือนจำกลางระยอง โดยได้รับเกียรติจากนายพิทักษ์ เสาทองหลาง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขัง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางระยอง ให้การต้อนรับ ณ เรือนจำกลางระยอง
เรือนจำกลางระยอง มีพื้นที่ 2,100 ไร่ และผู้ต้องขังประมาณ 6,000 คน ยึดการบริหารจัดการตามกฎแมนเดลา (Mandela Rules) หรือมาตรฐานสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง และข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) หรือข้อกำหนดสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงและมาตรการที่มิใช่การคุมขังสำหรับผู้กระทำผิดหญิง
คณะผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้รับชมการแสดงของผู้ต้องขังที่ได้รับการฝึกทักษะเสริม และรับฟังการบรรยาย หัวข้อ “การบริหารจัดการเรือนจำความมั่นคงสูงและการพัฒนาพฤตินิสัย” ซึ่งเรือนจำความมั่นคงสูง เป็น 1 ใน 5 เรือนจำทั่วประเทศที่มีความมั่นคงสูงสุด ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ต้องขังที่ไม่มีวินัยและกระทำผิดซ้ำ การขังจะเป็นการแยกขังตามพฤติการณ์ของผู้ต้องขัง ไม่ใช่การขังตามอัตราโทษ ทั้งนี้ คณะได้เข้าเยี่ยมชมแดนผู้ต้องขังหญิง ซึ่งมีการฝึกอาชีพและการบริการ อาทิ การนวดสปา การเสริมสวย การทำอาหารและขนม รวมทั้ง การฝึกดนตรีไทย
ช่วงบ่าย รับฟังการบรรยายหัวข้อ “การพัฒนาที่ยั่งยืนสู่นวัตกรรมเพื่อสังคม” ณ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด โดยมี คุณปาจรีย์ ลพสัตถยุทธ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารองค์กรให้การต้อนรับ และคุณกิติภูมิ ตั้งวงษ์พิมุข ผู้จัดการส่วนสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บรรยายพิเศษ สรุปสาระสำคัญ ได้ว่าบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด เป็นผู้ให้บริการสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แห่งแรกของประเทศไทย โดยมีวิสัยทัศน์ในการส่งเสริมพลังงานสะอาดและเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และมีนโยบายที่พัฒนาไปสู่การเป็น Green Terminal ในระดับ World Class ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์พลังงานด้วยการลดการใช้ไฟฟ้า และ CO2 ด้วยการนำพลังงานความเย็นที่เหลือใช้มาสร้างเป็นพลังงานหมุนเวียน นอกจากนี้ยังส่งเสริมการนำความเย็นไปพัฒนาในภาคการเกษตร เช่น การปลูกพืชเมืองหนาว และการพัฒนาระบบความเย็นสำหรับเก็บผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ซึ่งคณะได้เข้าชมสวนดอกไม้เมืองหนาวที่จัดแสดงในอาคารนิทรรศน์พรรณพฤกษา
ทั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมได้ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อบูรณาการความรู้ไปใช้ในการพัฒนากระบวนการยุติธรรมต่อไป