วันจันทร์ที่ 1 กันยายน 2568 เวลา 13.30 น. พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม และนายชัยวัฒน์ ร่างเล็ก ที่ปรึกษาด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม พร้อมด้วยกลุ่มพัฒนากฎหมาย เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 11) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (การกระทำความผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์) ครั้งที่ 3 ด้วยการประชุมทางไกลผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในฐานะหน่วยงานผู้ชี้แจงร่างกฎหมาย โดยมีศาสตราจารย์ คณิต ณ นคร เป็นประธานกรรมการ ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย อาทิ สำนักงานอัยการสูงสุด กรมกิจการเด็กและเยาวชน มูลนิธิพิทักษ์สิทธิเด็ก มูลนิธิพิทักษ์สตรี Hug Project มูลนิธิ Our Rescue และมูลนิธิสายเด็ก สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นด้วยในหลักการของร่างพระราชบัญญัติฯ โดยมีข้อสังเกตเพิ่มเติม ดังนี้
1. เด็กและเยาวชนที่มีความเสี่ยงถูกล่อลวงมักมาจากการที่บุคคลแวดล้อมปล่อยปละละเลย และไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อีกทั้งการกระทำความผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์และออฟไลน์ นอกจากจะเกิดจากผู้ใหญ่กระทำต่อเด็กแล้ว ก็มีกรณีที่เด็กกระทำต่อเด็กด้วยกันเช่นกัน
2. การคุ้มครองเด็กต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงยุติธรรม โดยอาศัยยุทธศาสตร์การคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะมีบทบาทสำคัญมาก เนื่องจากมีหน่วยดูแลชุมชนขนาดเล็กที่สามารถดูแลเด็กและครอบครัวได้อย่างทั่วถึงโดยไม่ต้องมีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่
3. นอกจากการล่อลวง โน้มน้าว และจูงใจเด็กให้กระทำเรื่องไม่เหมาะสมทางเพศ (Grooming) แล้ว ควรบัญญัติกฎหมายให้ครอบคลุมถึงการล่อลวงที่ไม่มีวัตถุประสงค์ทางเพศด้วย
4. ปัจจุบัน ประเทศไทยมีสายด่วนรับแจ้งเหตุเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับต่างประเทศกว่า 50 ประเทศ ซึ่งเด็กที่ถูกกระทำในปัจจุบันมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่อายุ 3 – 13 ปี โดยมากจะเข้ามาใกล้ชิดทำให้รู้สนิทใจหรือสร้างบุญคุณต่อเด็ก ทำให้เด็กรู้สึกว่าต้องตอบแทนหรือยอมที่จะกระทำตาม นอกจากนี้ ทุกปีจะมีจำนวนสื่อลามกเด็กเพิ่มขึ้นทั่วโลกจำนวนมหาศาล
5. ควรกำหนดคำจำกัดความตามกฎหมายให้ชัดเจนเพื่อลดการตีความที่อาจจะบิดเบือนเจตนารมณ์ของกฎหมาย