วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.30 น. สำนักงานกิจการยุติธรรม จัดการประชุมคณะทำงานดำเนินการและพัฒนาหลักสูตรการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ครั้งที่ 1/2568 โดยมี พลตำรวจเอก ชัชวาลย์ สุขสมจิตร เป็นประธาน และพันตำรวจโท มนตรี บุณยโยธิน รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม เป็นรองประธาน พร้อมด้วยคณะทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกิจการยุติธรรม 1 (JA1) สำนักงานกิจการยุติธรรม และวิธีการประชุมทางไกล (Online)
การประชุมในครั้งนี้ ได้พิจารณาประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่
1. (ร่าง) หลักสูตรอบรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 ฉบับปรับปรุง ซึ่งฝ่ายเลขานุการ ได้นำเสนอ (ร่าง) หลักสูตรอบรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่ได้ปรับปรุงใหม่ เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบงานยุติธรรม และคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ เพื่อจะได้นำ (ร่าง) หลักสูตรดังกล่าว ไปประกาศใช้ในการเป็นหลักสูตรกลางสำหรับฝึกอบรมให้แก่ผู้ประสงค์ที่จะขึ้นทะเบียนเป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทต่อไป ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบในเบื้องต้น แต่ยังมีข้อสังเกตในประเด็น 1) จำนวนชั่วโมงเรียน ที่ควรเน้นการฝึกภาคปฏิบัติให้มากขึ้น ทั้งในเรื่องเทคนิคการเจรจาและการเขียนบันทึกข้อตกลง เพราะเป็นหัวใจสำคัญของการเป็นผู้ไกล่เกลี่ย และ 2) การกำหนดวิทยากร ควรจัดทำฐานรายชื่อผู้ที่มีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ จากภาคส่วนต่าง ๆ ตามหัวข้อวิชา และให้ที่ประชุมคณะทำงานพิจารณาอนุมัติวิทยากรเพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพมาตรฐานของหลักสูตร โดยมติที่ประชุมมอบหมายฝ่ายเลขานุการรับข้อสังเกตของคณะทำงานไปปรับปรุง (ร่าง) หลักสูตร และให้นำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป พร้อมรายชื่อวิทยากรในแต่ละหัวข้อวิชา เพื่อให้คณะทำงานพิจารณาคุณสมบัติและอนุมัติวิทยากรในหลักสูตรไกล่เกลี่ย
2. การพิจารณาอนุญาตหน่วยงานในการนำหลักสูตรอบรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 ไปใช้ โดยฝ่ายเลขานุการ ได้นำเรียนให้ที่ประชุมทราบถึงหลักเกณณ์ที่ใช้พิจารณาอนุญาตให้หน่วยงานที่ประสงค์จะนำเนื้อหาหลักสูตรอบรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทไปใช้ในการฝึกอบรม โดยที่ประชุมมีความเห็นว่า เนื่องจากหลักสูตรยังอยู่ในระหว่างการปรับปรุง จึงเห็นควรชะลอเรื่องการอนุญาตหน่วยงานที่ขอนำหลักสูตรไปใช้ และให้สำนักงานกิจการยุติธรรมประสานงานกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในฐานะฝ่ายเลขานุการร่วม เพื่อหาแนวทางและมาตรการเกี่ยวกับการขออนุญาตให้ใช้หลักสูตร และนำเสนอในการประชุมครั้งต่อไป